As featured on:
โรคโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อสภาวะเศรษฐกิจอย่างมหาศาล ธุรกิจต่างๆ ทั่วโลกต่างต้องเรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากับนิวนอร์มอล ทั้งนี้ธุรกิจขนาดเล็กอย่างสตาร์ทอัพต้องเอาตัวรอดและฝ่าวิกฤติแพนเดมิคไปให้ได้ เช่นเดียวกับ “จัสโค” สตาร์ทอัพยูนิคอร์นสัญชาติสิงคโปร์ ซึ่งเป็นผู้นำให้บริการด้านพื้นที่ทำงานแบบยืดหยุ่นชั้นนำในเอเชียแปซิฟิก และให้บริการโคเวิร์กกิ้งเซ็นเตอร์กว่า 4 สาขาในกรุงเทพฯ เดินหน้าตอบรับความต้องการใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภคด้วยนวัตกรรมด้านพื้นที่ทำงานสุดล้ำ พร้อมค้นพบโอกาสในการเติบโตไปข้างหน้าท่ามกลางวิกฤติโควิด
การตอบรับความต้องการของผู้บริโภค :(1) เปิดตัว Core & Flex ซึ่งเป็นโซลูชั่นด้านพื้นที่ทำงาน แนวคิด ใหม่
ท่ามกลางการระบาดของโรคโควิด -19 จัสโคยัง เปิดโคเวิร์กกิ้งต้อนรับลูกค้าองค์กรที่มีชื่อเสียง อย่างต่อเนื่อง อาทิ L’Oreal บริษัทคอสเมติกยักษ์ใหญ่, Riot Games ซึ่งได้รับการสนันสนุนจากบริษัทเกมยักษ์ใหญ่ อย่าง Tencent และกสิกรไลน์ ซูเปอร์แอพฯ ที่ให้บริการด้านการเงินผ่าน ไลน์ แอพลิเคชั่น เป็นต้น หลาย ธุรกิจต่า ง หันมาทบทวนกลยุทธ์ด้านอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการปรับลดศูนย์กลางการทำงานให้เหมาะสม ซึ่งจัสโค มีความเชี่ยวชาญ ในการมอบโ ซลูชั่นด้านพื้นที่ทำงานแบบเบ็ดเสร็จ ด้วยข้อเสนอที่มี ความยืดหยุ่นอย่างสูงสุด แต่มี ภาระผูกพันน้อยที่สุด
ด้วยนวัตกรรมและโซลูชั่นด้าน Core & Flex ที่จัสโคคิดค้น ขึ้น ช่วยมอบ “พื้นที่ทำงานพร้อมบริการแบบเบ็ดเสร็จ” เพื่อลดค่าใช้จ่าย ที่มาพร้อมคอมมิวนิตี้ทางธุรกิจ สำหรับการติดต่อสัมพันธ์และสร้างเครือข่า ยอย่างทันที ทำให้ธุรกิจสามารถเลือกใช้พื้นที่ทำงานแบบไฮบริด ที่ผสมผสาน ระหว่าง พื้นที่แบ ประจำ และ ยืดหยุ่น เข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ออฟฟิศส่วนตัว พร้อมใช้งานทันที ออฟฟิศ ที่ออกแบบตาม ความต้องการขององค์กร โต๊ะทำงานไม่ประจำที่หรือ hot desk ห้องประชุม และพื้นที่ทำงานสะดวกใช้ที่จ่ายค่าบริการตามการใช้งานจริงเป็นรายนาที เพื่อให้องค์กรสามารถปรับขนาดพื้นที่ทำงานให้เหมาะสม ในแบบ ที่ต้องการ ได้ ใน ทุกเมื่อ ทางเลือกที่ยืดหยุ่นนี้ยังอำนวยความสะดวกให้พนักงานได้เลือกทำงาน ในทุกที่และในแบบที่ต้องการ
การตอบรับความต้องการของผู้บริโภค : (2) จัสโคจับมือกับพันธมิตรผู้ให้บริการแพลตฟอร์มพื้นที่ทำงานสะดวกใช้แห่งแรกของโลก
เพื่อตอบรับความต้องการใช้พื้นที่ทำงาน แบบยืดหยุ่นของสมาชิก ในระยะ เวลา สั้นๆ พร้อมทางเลือกในการ ทำงานจากหลากหลายสถานที่ จัสโคได้จับมือกับ Switch ซึ่งให้บริการแพลตฟอร์มด้านพื้นที่ทำงานสะดวกใช้แห่งแรกของโลก ที่สามารถจ่าย ค่าบริการตามการใช้งานจริงเป็นรายนาที Switch ถือครองและดำเนินการโดย REinvent ซึ่งเป็นพร็อพเทคสตู ดิ โอเจ้าแรกในเอ เ ชีย และได้รับการสนับสนุนจากจัสโค
ผู้ใช้งานสามารถเข้าใช้บริการพื้นที่ทำงานที่สะดวกสบายและมีให้บริการทั่วเกาะสิงคโปร์ เพื่อทำงานในแบบที่ต้องการได้ในทุกเมื่อ โดยสามารถเข้าใช้งาน Switch ได้ในโคเวิร์กกิ้งเซ็นเตอร์ของจัสโคได้ทั้ง 12 แห่งใจกลางย่าน ธุรกิจของสิงคโปร์ และห้างสรรพสินค้า ที่รวม ย่านชานเมืองอีก 9 แห่ง เพื่อให้ผู้ใช้งานได้เลือกทำงานใกล้บ้านได้ พื้นที่ทำงานของ Switch ในห้างสรรพสินค้าอยู่ในรูปแบบบูธ สำหรับ นั่งทำงานขนาดกะทัดรัด ล้อมรอบด้วยผนังเก็บเสียง ลำโพงเชื่อมต่อด้วยระบบบลูทูธ Wi-Fi ที่ปลอดภัย พัดลมระบายอากาศ และติดฟิล์มเพื่อความเป็นส่วนตัว พร้อมการใช้งานผ่านแอพลิเคชั่น Switch อำนวยความสะดวกในการค้นหา บูธทำงาน เช็คอินและเช็คเอ้าท์ และการจ่ายบิล ผ่านแอพฯ แบบ เบ็ดเสร็จ
บูธทำงาน Switch ยังเตรียมให้บริการในอีกหลากหลายพื้นที่ในสิงคโปร์ และมีแผนขยายไปยังตลาดอื่นๆ ที่จัสโคมีสาขาตั้งอยู่ รวมถึงในกรุงเทพฯ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไต้หวันภายในสองปี
การตอบรับความต้องการของผู้บริโภค : ( 3) คิดค้นเทคโนโลยีการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพื้นที่ด้วย AI เพื่อตรวจจับระยะห่าง ระหว่าง บุคคล เพื่อความปลอดภัย
จัสโค สาขาเดอะ เซ็นเตอร์พ้อยท์ สิงคโปร์ ถือเป็นโคเวิร์กกิ้ง เซ็นเตอร์อัจฉริยะแห่งแรกของจัสโค นำร่องการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพื้นที่ ที่ประมวลผล โดย SixSense และ ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อนำมาใช้จัดการพื้นที่ทำงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด SixSense คิดค้น โดย REinvent ซึ่งเป็นพร็อพเทคสตู ดิ โอเจ้าแรกในเอ เ ชีย และได้รับการสนับสนุนจากจัส โค
เทคโนโลยี SixSense ช่วยให้จัสโคสามารถมองเห็น จำนวน คนใน พื้นที่ทำงานแบบ เรียลไทม์ ตรวจวัดความถี่ในการใช้งานและ ส่งสัญญาณ เตือนทันที หากมี ความหนาแน่น เกินไปเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานการรักษาระยะห่าง เพื่อเตรียมรับมือกับโลกหลังโควิด
นอกจากนี้ จัสโค เดอะ เซ็นเตอร์พ้อยท์ ยังใช้เทคโนโลยีสำหรับพื้นที่ทำงานอื่นๆ เช่น การผ่านเข้าออกเซ็นเตอร์ด้วยระบบจดจำใบหน้าและการใช้บลูทูธแทนคีย์การ์ด รวมถึงคาเฟ่ที่ควบคุมด้วยหุ่นยนต์เพื่อเสิร์ฟกาแฟให้ผู้ มา ใช้งาน
ความรอบคอบด้านการเงิน
คง วัน ซิง ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ ให้ความเห็นว่า “ วิกฤติโควิด -19 ที่ เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ ไม่มีใครคาด คิด มาก่อน และ จัสโค ยังเดินหน้ายึดหลักความรอบคอบด้านการเงินอย่างเคร่งครัด โดย มุ่งเน้นการขยายธุรกิจที่จะสร้าง ผล กำไรเท่านั้น พร้อมไปกับการสนับสนุนจาก ผู้ลงทุนซึ่งถือเป็น พันธมิตรทางธุรกิจ ที่ แข ็ งแกร่ง ทำให้จัสโค เดิน หน้า สร้างนวัตกรรมอย่างไม่หยุดนิ่ง ได้ ท่ามกลางสถานการณ์ที่ท้าทาย เพื่อช่วย เปลี่ยนการทำงานของผู้คนไปสู่ วิถีที่ดีขึ้น ทั้งนี้ การทำงานนอกออฟฟิศจะ ยังมี อยู่ต่อไป ซึ่ง เรา ก็ได้ เห็น ข้อจำกัด ต่างๆ แล้ว หนึ่งในนั้นคือการ ส่งผล ต่อ ประสิทธิภาพการทำงานของคนทำงาน นำไปสู่ ความตึงเครียด ที่เพิ่มขึ้น และลดความร่วมมือ ใน
ทีม ลง ส ่วนผสม ของ คอมมิวนิตี้ การเชื่อมต่อ วัฒนธรรม และ ปฏิสัมพันธ์ ในสถานที่ทำงาน นั้น ไม่มีสิ่งใดมาทดแทนได้ สิ่งหนึ่งที่จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จในยุคนี้ได้คือ การ มี ทางออกด้านพื้นที่ทำงาน ที่ยืดหยุ่นผสมผสานไปกับแบบ ประจำที่ ไม่ว่าจะ สำหรับ สำนักงานใหญ่ ทีมจากระยะไกล นอกออฟฟิศ การสำรอ ง พื้นที่ในยามฉุกเฉิน หรือพื้นที่ ทำงานพร้อมใช้สำ หรับการทำงาน ใน ระยะสั้นๆ ต่างๆ”
ภายใต้การสนับสนุนของ GIC, Frasers Property และ Daito Trust ทำให้จัสโคดำเนินธุรกิจได้อย่างคล่อง ตัว สานนวัตกรรมได้อย่างไม่หยุดยั้ง และคงความรอบคอบทางด้านการเงิน อยู่เสมอ กุญแจสำคัญที่ทำให้จัสโคฝ่าช่วงเวลาที่ท้าทายและประสบความสำเร็จในวิกฤติโลกครั้งนี้คือ ความสามารถในการปรับตัวอย่างรวดเร็วท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจ ที่เปลี่ยนแปลงอย่าง ต่อเนื่อง และการตอบรับต่อดีมานด์ใน ตลาด ได้อย่างทันท่วงที
จัสโค ยังเดินหน้าเป็นผู้นำ ในการ ให้บริการ ด้าน โคเวิร์กกิ้งสเป ซ ภายหลังความสำเร็จในการเปิดสาขาต่างๆ อย่างต่อเนื่อง อาทิ สาขาสามย่านมิตรทาวน์และอัมรินทร์พลาซ่าในกรุงเทพฯ และมีความเชื่อมั่นในอนาคตของการทำงาน อย่างสูงสุด เดินหน้ามอบ โ ซล ู ชั่นผสานด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ เพื่อขับเคลื่อนโลกของการทำงานในอนาคต พร้อมสร้างการทำงานให้ดีขึ้นสำหรับคนทำงานและทุกธุรกิจ